วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

องค์กรแห่งความเป็นเลิศ


องค์กรแบบใหนที่จะเรียกได้ว่าเป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศ ตามความคิดเห็นของข้าพเจ้า ทุกองค์กรสามารถก้าวไปสู่ความเป็นเลิศได้ไม่ยาก ถ้า....

1. องค์กรนั้นมีความพร้อม ทั้งจากผู้บริหาร บุคลากร เครื่องมือต่าง ๆ

2. ผู้นำองค์กรต้องแสดงเจตจำนงค์ ให้ชัดเจนว่าต้องการเป็นเลิศด้านใด

3. บุคลากร ในองค์กร ต้องร่วมด้วยช่วยกันเพื่อไปให้ถึงจุดหมายของความเป็นเลิศ


เพียงสามข้อข้างต้นข้าพเจ้าก็คิดว่า องค์กรสามารถไปสู่ความเป็นเลิศได้ไม่ยาก แต่ถ้าองค์กรใด เป็นแบบนี้....

1. ผู้บริหารไม่รู้ ไม่เข้าใจ วัฒนธรรมองค์กร กล่าวคือ อยากทำอะไรก็ทำ เห็นอะไรไม่ถูกก็สั่งให้ทำใหม่ อย่างไร้ทิศทาง

2.บุคลากร คิดว่าทำแค่นี้ก็ดีแล้ว ทำมากเดี๋ยวนายด่า ทำเยอะพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรทำ

3. บุคลากร รอผู้บริหารเริ่มก่อน / ผู้บริหาร รอว่าเมื่อไรบุคลากรจะพัฒนา .............


ในปัจจุบัน จะพบว่าหลายองค์กร ก้าวสู่ความเป็นเลิส ได้อย่างง่ายดาย และ อีกหลายองค์กรคิดว่าจะไปสู่ความเป็นเลิศได้ในอนาคตอันใกล้ และ มีอีกหลายองค์กรที่ยังไม่รู้แม้กระทั่ง วัฒนธรรมขององค์กร

"ต้นไม้ กะ ต้นน้ำ"

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2552

เป็นเมียน้อย..... มันผิดตรงไหน


เคยมีคนถามว่าเป็นเมียน้อยแล้วผิดหรือเปล่า... คงไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ เพราะการดำรงชีวิตของเราทุกวันนี้ไม่มีใคร รู้ถึงความต้องการ ความทุกข์ ความสุข ของคนอื่นได้ นอกจากตัวของเราเอง ดังนั้น ถ้าถามว่าเป็นเมียน้อยแล้วผิดมั้ย ก็ขอให้ลองอ่านดู


1. เมื่อคุณทำไปแล้วคุณรู้สึกว่า คุณมีความสุขมากขึ้นหรือไม่ ..... ถ้ามีความสุขมากขึ้นก็ทำต่อไปเถอะ เพราะทุกวันนี้ ความสุขหาได้ยากมาก

2. การกระทำของคุณ ส่งผลกระทบกับการดำรงชีวิตของคนอื่นหรือไม่..... ถ้าทำให้ชีวิตคนอื่นแย่ลง ก็ควรนึกถึงบาปกรรม บ้าง

3. การกระทำนั้น เป็น สันดาน หรือ นิสัย ของคุณ ถ้าเป็นนิสัย ก็น่าจะแก้ไขได้ "หยุดมันซะ" แต่เป็น สันดาน ก็ต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม

4. ถ้าคุณเลิกเป็นเมียน้อย ชีวิตคุณจะพังทลายไปหรือไม่....ถ้าพัง ก็ให้เป็นเมียน้อยต่อไป

5. ถ้าคุณเป็นเมียน้อยต่อไป เมียหลวง เขาสุขสบายดีหรือเปล่า.... ถ้าเขาก็สุขสบายดี คุณก็จงเป็นเมียน้อยต่อไป เพราะคุณจะได้บุญมหาศาล

6. คุณสามารถหาผู้ชายดี ๆ สักคนเป็นสามีได้มั้ย..... ถ้าสามารถหาได้ ก็ให้เลิกเป็นเมียน้อย แล้ว หาผู้ชายดี ๆ สักคนเป็นสามี แต่ถ้าคุณไม่สามารถหาได้ ก็จงเป็นเมียน้อยต่อไป เพราะถึงต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ คุณก็ยังมีผู้ชายให้นอนด้วย

7. คุณภาคภูมิใจในการเป็นเมียน้อยหรือไม่.... ถ้าคุณภาคภูมิใจจงทำต่อไป และ ช่วยแนะนำคนรอบข้างคุณด้วย ว่าการเป็นเมียน้อย มันวิเศษเพียงใด

8. ผู้ชายคนนั้นให้คุณได้ทุกอย่าง ทั้งแก้วแหวน เงินทอง ความสุข บ้านที่ดิน ใช่หรือเปล่า.... ถ้าใช่รักษาเขาไว้ให้ดี อย่าให้ใครมาแย่งไปได้

9. ลองพิจารณาดูว่า คนรอบข้างคุณ เขารู้สึกกับคุณเช่นไร เมื่อรู้ว่าคุณเป็นเมียน้อย...... เขารู้สึกยินดีด้วยกับคุณ หรือ ขยะแขยงคุณ

10. การเป็นเมียน้อยของคุณนั้น คุณได้ไปเหยียบหางใครหรือเปล่า ถ้าไม่ ก็ไม่เห็นต้องแคร์ใคร

11. ลองพิจารณาว่า ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับตนเอง หรือ แม่เรา หรือ น้องเรา .... คุณรับได้หรือเปล่า

12. สุดท้าย คุณมีจิตสำนึกที่ดีหรือเปล่า ถ้ามีก็คิดเอาเอง .................. ว่าควรทำอย่างไร


ที่สำคัญคิดว่าทั้งสามคน (สามี เมียหลวง เมียน้อย ) ต้องทบทวนบทบาทตัวเองก่อนว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เช่น

1. สามี พิจารณาว่า สิ่งที่ทำนั้นเหมาะสมกับคำว่า "พ่อ" ที่ลูกพึงจะเรียกหรือไม่ หรือ ถ้าไม่มีเมียน้อยเราจะตายหรือไม่ หรือ เราไม่รู้จักพอหรือเปล่า

2. เมียหลวง พิจารณาว่า เราทำหน้าที่ของเราดีที่สุดหรือยัง ให้ความรัก เคารพ ทุกคนในครอบครัวหรือเปล่า อาจจะทำงานน้อยลง แล้วมาสนใจเรื่องในบ้านมากขึ้นได้มั้ย หรือเราทำตัวแก่ลงหรือเปล่า หรือ การกระทำใด ๆ ที่คิดว่าทำแล้ว ทุกคนในครอบครัวจะมีความสุข ลองทำดู

3. เมียน้อย เลิกคิดว่า เราไม่มีทางเลือก เขามายุ่งกับเราเอง ทำใจไม่ได้ เพราะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เวรกรรมมีจริง


" ผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ โอกาสนี้"